ก่อนหน้านี้ในบทความของ gamerr เราได้พูดถึง 100 ชั่วโมงแรกสำหรับมือใหม่ของการเล่น Dota2 ว่าควรทำอย่างไรดี สำหรับวันนี้ครับ เราจะมาพูดถึงเรื่องนี้กันอีกครั้งแต่ในข้อหัวที่ว่า “7 ฮีโร่ Dota2 ที่จะทำให้เขียวทั้งกระดาน”
ถึงแม้ว่าเกม Dota2 จะเปิดให้บริการมาร่วมทศวรรษแล้ว แต่ก็ยังมีผู้เล่นใหม่ ๆ เข้ามาอยู่เสมอ ๆ ไม่ว่าจะทั้งบรรดาขาเล็กขาใหญ่ แม้กระทั่งผู้เล่นที่เล่นมาอยู่แล้วก็ตาม
ทำไมกันน้า ทำไม อันดับ Ranking ของเรามันไม่ขยับไปไหนมาไหนสักที หรือมันอาจจะเป็นเพราะวิธีการเล่น + กับฮีโร่ที่มันอาจจะทำให้คุณเล่นยากหรือไม่อย่างไรวันนี้ gamerr มี 7 ฮีโร่เด็ด! มาแนะนำลองไปดูกันครับว่าจะมีตัวอะไรบ้าง
1.Bristleback หรือ BB
BB เป็นฮีโร่ Core ที่สามารถไปได้ทุกเลนตั้งแต่ ออฟเลน เลนกลาง ไปจนถึง เซฟเลน BB เป็นฮีโร่ที่มีทั้งดาเมจที่รุนแรงในช่วงต้นเกมถึงกลาเกม และตายยากเพราะมีสกิลเสริมความแข็งแกร่งให้กับตัวเอง และมีรูปแบบการเล่นที่ไม่ซับซ้อนมากนัก
วิธีการเล่น
แบ่งออกได้เป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ ด้วยกันคือ
1.1.ไล่กดเลนฝ่ายตรงข้ามให้จมดินด้วยการใช้สกิล Quill Spray อย่างต่อเนื่อง (เน้นว่าต่อเนื่องนะครับ) ต่อเนื่องชนิดที่ว่า มีมานาเมื่อไหร่ก็ใช้ มานาหมด ก็เอานกมาส่งมานาใช้สกิลต่อเนื่อง เพราะยิ่งฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามโดนสกิล Quill Spray มากเท่าไหร่ การโดนสกิลครั้งต่อไปจะแรงขึ้นเรื่อย ๆ
และการที่ผู้เล่นมือใหม่ระดับพอ ๆ กันจะรับมือกับ Bristleback อาจไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเท่าไหร่นัก Bristleback จึงถือเป็นฮีโร่ที่คุณไม่ควรมองข้าม
1.2.ทว่า Bristleback ก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นฮีโร่ที่ไม่มีจุดอ่อนเลยก็คงจะเป็นไปไม่ได้ หากในเลนของ Bristleback ไม่ได้เปรียบหรือกดฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ แถมคุณเองที่เป็นฝ่ายถูกกดดันซะอย่างนั้น คุณจำเป็นจะต้องให้ซับพอร์ตในเลนของคุณ ช่วยสแต็คครีปให้ เพื่อให้คุณไปซ่อมฟาร์ม Bristleback มีคุณสมบัติในการฟาร์มครีปสแต็คเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้ไอเท็มป้องกันตัวเอง และไอเท็มขยายหลอดเลือดตัวเองให้เร็วที่สุดแล้วเริ่มทำเกม
ข้อควรระวัง
Bristleback เป็นฮีโร่ที่เก่งในเกมนำ เกมสูสีหรือเกมตาม Bristleback ประสิทธิภาพจะน้อยทันที เพราอย่าลืมว่า Bristleback เป็นฮีโร่ไม่มีสกิลสตั้นช่วยทีมไฟท์ไม่ได้ สิ่งที่ฮีโร่ตัวนี้เก่งมากคือไล่ฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามที่ไม่มีสกิลหนีออกจากไฟท์
2.Mirana
น่าจะเป็นฮีโร่โปรดของใครหลายคนอยู่แล้ว ทว่าการมีฮีโร่อย่าง Mirana อยู่ในทีมนั้นถือว่าเป็นสิ่งที่ได้เปรียบอย่างมาก เพราะแท้จริงแล้วสกิลทีเด็ดของฮีโร่ตัวนี้ไม่ใช่เพียง Sacred Arrow แต่เป็น Moonlight Shadow เป็นสกิลที่มีความสามารถทำให้เพื่อนร่วมทีมทุกคนอยู่ในสถานะหายตัว ซึ่งมันเป็นทั้งสกิลที่สามารถ รุกรับ ได้ในเวลาเดียวกัน
การที่เราสร้างโจทย์ให้กับฝ่ายตรงข้ามแก้ถือเป็นเรื่องดีเสมอต่อให้ถูกแก้ทางด้วย Dust หรือ Sentry เชื่อเถอะว่าเขาจะไม่มีไอเท็มนี้พกไปตลอดทั้งเกมหรอก ยิ่งซัพพอร์ตฝ่ายตรงข้ามไม่ใช่สไตล์ถวายชีวิต หรือ แครี่ที่ Aggressive มาก ๆ การพก Dust พก Sentry เป็นเรื่องยากสำหรับผู้เล่นเหล่านี้
อีกไม้เด็ดของ Mirana คือการสร้างความกังวลให้กับฝ่ายตรงข้ามว่าจะต้องคอยหลบ Sacred Arrow ตอนไหน ถ้าในแมตช์ไม่มีฮีโร่ตัวไหนออกเลนมาเลย Moonlight Shadow หรือไม่อย่างไร สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้สามารถชลอการฟาร์มของอีกทีมได้เช่นเดียวกัน
ที่สำคัญ Mirana เล่นได้ทั้งเกมนำ และ เกมตาม
วิธีการเล่น
แพทช์ปัจจุบัน Mirana ไม่เก่งพอที่จะเป็นตัว Core เพราะโดนเนิบมาหลายแพทช์ติดต่อกัน ตอนนี้ Mirana เหมาะสมที่สุดกับตำแหน่ง Pos4 Pos5 ซึ่งสไลต์การเล่น Mirana ในเลนจะเป็นฮีโร่ประเภทหาจังหวะ Sacred Arrow มากกว่าการ ไล่ Kite ฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม หากคุณหลบอยู่ในมุมมืดแล้ว Sacred Arrow โดนสัก 2 ครั้งจากระยะกลาง ๆ ในเลนของคุณอาจจะมีจังหวะให้การกำจัดฝ่ายตรงข้ามก็เป็นไปได้ หรือการไปช่วยตัดรูนให้กับเลนกลางของเรา Mirana ถือเป็นฮีโร่ที่โดดเด่นในเรื่องนี้เช่นเดียวกัน แถมยังช่วย Sacred Arrow ให้กับเลนกลาง สร้างจังหวะในการกำจัดฝ่ายตรงข้ามได้
เมื่อคุณ lv6 พยายามหาเรื่องใช้ Moonlight Shadow อย่าห่วงที่จะใช้อันติช่วยเพื่อน หรือใช้ในการเข้าไฟท์ แม้กระทั่งตอนที่กำลังทีมไฟท์อยู่ก็ตามมันจะส่งผลให้ทีมของคุณได้เปรียบอย่างมาก
ข้อควรระวัง
Mirana เป็นฮีโร่ที่บางมากรับดาเมจแทบไม่ได้เลย ผู้เล่นจำเป็นต้องรักษาตำแหน่งการเล่นของ Mirana ให้ดี เพราะยิ่ง Mirana อยู่ในไฟท์นานเท่าไหร่ Mirana จะส่ง Sacred Arrow มาได้เรื่อย ๆ จนฝ่ายตรงข้ามต้องโดนสักครั้งจงได้
3.Sand King
เป็นฮีโร่ที่เล่นได้หลายตำแหน่ง ซัพพอร์ตก็ได้ ออฟเลนก็ดี เลนกลางก็ทำเกมได้ไว สามารถกดเลือกฮีโร่เป็นตัวแรก ๆ ได้เลย มีดาเมจช่วงต้นเกมที่หนักหน่วงเป็นฮีโร่ที่สามารถ Solo kill ได้ (ช่วงต้นเกมนะ) ทว่า Sand King เป็นฮีโร่ที่ต้องพึ่งพาทีมพอสมควร จำเป็นต้องเข้าทีมไฟท์หรือเดินเกมทำเกมกับเพื่อนในทีม เป็นฮีโร่ที่ไหลเกมได้ด้วยการใช้แค่ 2 สกิลอย่าง Burrowstrike และ Sand Storm อีกทั้งจะเป็นตัวขัดจังหวะฝ่ายตรงข้ามได้แบบปีศาจ
วิธีการเล่น
Sand king เป็นฮีโร่ที่ต้องจับบ่อย ๆ พอสมควรเพราะต้องใช้ทักษะในการใช้สกิล Burrowstrike ถึงแม้ว่าจะเป็นสกิลที่กดใส่ตัวได้ แต่สกิล Burrowstrike จะมีประสิทธิภาพมากหากสามารถสตั้นฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามได้ทีละหลายตัว ยิ่งคุณสตั้นด้วยสกิล Burrowstrike โดนฮีโร่มากกว่า 1 ตัวในไฟท์ได้เท่าไหร่โอกาสชนะไฟท์นั้นก็จะสูงตามไปด้วย
การเล่น Sand King ในเลนมันจะขึ้นอยู่กับปัจจัยฮีโร่ฝ่ายตรงข้าม Sand King จะเก่งมากหากเจอฮีโร่ฝ่ายตีระยะประชิดด้วยกัน คุณสามารถอัพสกิล Caustic Finale นำได้เลยสกิลนี้จะทำให้ Sand King ยืนเลนได้แข็งมาก รวมถึงความสามารถในการฟาร์มอีกด้วย
แต่ถ้าคุณรู้ตัวว่าแพ้เลนแน่ ๆ ให้เลือกอัพสกิล Sand Storm และ Caustic Finale นำขึ้นมา Burrowstrike ยังไม่ต้องอัพ หรือ ติดไว้ 1 ก้ได้ เร่งฟาร์มนิดหน่อยแล้วรีบไปทำเกม Sand King ฟาร์มแล้วไม่เก่งนะครับต้องทำเกม
ข้อควรระวัง
Sand King เป็นฮีโร่สาย Str ที่ต้องใช้มานาในการเล่น เฉพาะฉะนั้นพยายามหลีกเลี่ยงฮีโร่ที่ทำให้มานาคุณหมดได้ จะทำให้ Sand King เล่นยาก หากเกมตามมาก ๆ Sand King จะจืดไปเลยอาจจะ Burrowstrike ได้ครั้งเดียวแล้วตายไปเลยก็มีความเป็นไปได้
ที่สำคัญถึงแม้ผู้เขียนจะบอกว่า Sand King มีความสามารถ Solo kill ได้ในช่วงต้นเกม แต่อย่างไรเสีย Sand King เป็นฮีโร่ที่ต้องพึ่งพาทีม ทีมต้องเล่นด้วย ก่อนเลือก Sand King ใน Rank เกมพึงระลึกไว้ว่าทีมของคุณต้องไม่ใช่พวกฮีโร่ฟาร์มโลกแตกอะไรทำนองนั้น
4.Troll Warlord
ฮีโร่ last pick ที่น่ากลัวมาก คุณลองนึกภาพว่าถ้าไม่มีฮีโร่ตัวไหนมีสกิลหยุด Troll Warlord ที่กดสกิล Battle Trance อะไรจะเกิดขึ้นละครับ ที่เราเลือก Troll Warlord มาเป็นตัวเลือกที่ 4 นั้น เพราะ Troll Warlord เป็นฮีโร่ที่ไม่แพ้เลน มีความสามารถในการยืนเลนสูงมาก เพราะด้วยสกิลอย่าง Berserker’s Rage ที่ทำให้ Troll Warlord มีความยืดหยุ่นในการโจมตีทั้งระยะใกล้ และไกลทำให้ Troll Warlord เลือกจังหวะในการเล่นในเลนให้ตัวเองได้
เสริมดาเมจช่วงต้นเกมด้วยสกิล Whirling Axes จะใช้ลาสครีปในเลนก็ได้ หรือใช้กดดันฝ่ายตรงข้ามก็สามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน Troll Warlord เป็นฮีโร่ที่ครบเครื่อง ตีป้อมก็ดี ตีคนไม่ต้องพูดถึง มีสามารถในการเร่งฟาร์ม เดินเกมก็ได้ แต่ก็ถูกแก้ทางง่ายเช่นเดียวกัน
วิธีการเล่น
การเลือก Troll Warlord ไม่ใช่ฮีโร่ First pick โดยธรรมชาติอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นคุณต้องมั่นใจก่อนที่จะเลือก Troll Warlord จะไม่มีฮีโร่ของฝ่ายตรงข้ามที่เป็นปัญหาสำหรับคุณ เพื่อให้การเล่น Troll Warlord มีประสิทธิภาพสูงสุด เช่นว่าฝ่ายตรงข้ามมี OD / Pugna / beastmaster / Pangolier / Puck ฯลฯ
Troll Warlord เป็นฮีโร่ที่กดเลนได้ดี เพราะฉะนั้นการเล่นในเลนคุณจำเป็นต้องจำ 2 อย่างพร้อมกันคือ กดดันฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามพร้อมกับลาสครีปไปพร้อม ๆ กัน Troll Warlord เป็นฮีโร่ที่สามารถเล่นเกมเร็วได้ อาศัยไอเท็มเพียง 1 ถึง 2 ชิ้นก็มีความสามารถปิดเกมฝ่ายตรงข้ามได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งมีความสามารถตี RS ได้ตั้งแต่ lv12 (ขึ้นอยู่กับปัจจัยทีมด้วย)
หากต้องเร่งฟาร์มแนะนำให้ซื้อ Clarity ติดตัวไว้ เน้นใช้สกิล Whirling Axes บ่อย ๆ วิ่งฟาร์มสลับครีปเลน ครีปป่า (ถ้ามีซัพพอร์ตสแต็คครีปไว้ให้จะฟาร์มเร็วขึ้นไปอีก) ทว่าในเลน Troll Warlord ได้เปรียบมาก ๆ พยายามดันครีปให้สูงไว้เพื่อหาในการดันป้อม และเซฟไม่ให้ตัวเองถูกฝ่ายตรงข้ามเก็บเอาง่าย ๆ
ข้อควรระวัง
Troll Warlord เป็นฮีโร่ที่ถูก Kite ไม่ได้เลยเพราะดาเมจทั้งหมดมาจากการตีธรรมดา ถูกแก้ทางด้วยไอเท็มอย่าง Heaven’s Halberd ถ้าฝ่ายตรงข้ามออกไอเท็มนี้สัก 2 คน Troll Warlord ก็แทบจะเล่นในไฟท์ไม่ได้แล้ว (ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบทีมเป็นสำคัญ)
Troll Warlord เป็นฮีโร่เลือดน้อยแต่ต้องเอาตัวเองเข้าไปแลก ออกไอเท็มเลือดก็ไม่เก่งต้องออกไอเท็มสแต็ด การออกไอเท็ม Troll Warlord ละเอียดอ่อน ไอเท็มแต่ละชิ้นต้องทำให้ Troll Warlord ได้เล่นในไฟท์ ไอเท็มอย่าง BKB เป็นไอเท็มที่ Troll Warlord ไม่ควรละลาย
5.Bloodseeker
Bloodseeker เป็นฮีโร่ที่พอเลเวล 6 แล้วเก่งทันทีด้วยสกิลอย่าง Rupture ซึ่งมันเป็นสกิลที่จับตายฮีโร่พวก Mobility สูง ๆ ได้เป็นอย่างดี หรือจะใช้เดินเกมกับเพื่อนร่วมทีมก็สามารถทำได้ดีเช่นเดียวกัน ที่สำคัญเป็นสกิลที่ BKB กันไม่ได้อีกด้วย แต่อย่าเผลอไปกดใส่ฮีโร่ Str เลือดเยอะ ๆ เข้าละเดี๋ยวจะโดนเปิด Blademail ตายเองซะอย่างนั้น แต่เลเวล 6 ใครจะมี Blademail ละจริงไหม
ซึ่ง Bloodseeker เป็นฮีโร่ที่สามารถเล่นได้ทุกเลน มีความสามารถในการยืนเลนที่ดีเพราะมี Bloodrage ที่คอยประคองเลือดตัวเองได้ สำหรับผู้เล่นใหม่ ๆ ค่อนข้างที่จะรับมือยากกับฮีโร่ Bloodseeker ตัวนี้
วิธีการเล่น
ในเลนพยายามตีตอดเลือดฝ่ายตรงข้ามเอาไว้เพื่อให้ Bloodseeker ติด passive สกิล Thirst จะทำให้ Bloodseeker เล่นง่าย หากต้องการกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้ใช้ Rupture + Blood Rite คอมโบกับ เพื่อดาเมจที่หนักหน่วง
ทำเกมทุกครั้งที่มี Rupture ถึงแม้จะกำจัดฝ่ายตรงข้ามไม่ได้ แต่สามารถกดดันฝ่ายตรงให้วาร์ปกลับบ้าน หรือ ฝืนสู้กับเรา (ช่วงนี้สไนเปอร์กลับมาฮิต เอา Bloodseekerไปตบหน้าเล๊ยยย!!)
ข้อควรระวัง
Bloodseeker เล่นเกมตามไม่ได้เด็ดขาดไม่งั้นจะสู้ใครไม่ได้ หากไม่มีไอเท็มในช่วงกลางเกมมาเล่น Bloodseeker จะขาดดาเมจเกินไปปิดใครไม่ลง ไดร์ฟฝ่ายตรงข้ามไม่ไหว พลัง Bloodseeker ก็จะน้อยลงไปด้วย
Bloodseeker เป็นฮีโร่สาย Agi ที่เลือดน้อย แต่ต้องอาศัยการสู้ระยะปะชิด เพราะฉะนั้นจังหวะในการเข้าไฟท์จึงสำคัญมาก จะเป็นสไตล์ One man show ตายเรียบจ้าบอกเลย
Bloodseeker ต้องเดินเกมให้ไว ไม่ฉะนั้นฝ่ายตรงข้ามเขาอยู่รวมกัน Bloodseeker จะทำอะไรไม่ได้เหมือนกัน
6.Disruptor
ว่ากันว่า Disruptor ถือเป็น Pos5 ที่เก่งที่สุดในบรรดาฮีโร่ Pos5 ทั้งหลาย ซึ่งก็แน่นอนฮีโร่อย่าง Disruptor เป็นฮีโร่ที่มี impact ตั้งแต่เลเวล 1 ไปจนถึงช่วงท้ายเกม เรียกได้ว่าเป็นฮีโร่ที่ควรกำจัดเป็นตัวแรก ๆ ในไฟท์เลยก็ว่าได้
วิธีการเล่น
Disruptor สามารถเป็นทั้งซัพพอร์ต และ เลนกลาง แต่ในปัจจุบัน Disruptor ไม่ถูกนำไปเล่นเลนกลางก็เพราะว่า มีตัวเลือกอื่น ๆ ที่ดีกว่ารับมือกับสถานการณ์ได้มากกว่า สำหรับมือใหม่ที่เล่นตำแหน่งซัพพอร์ตแล้วกำลังมองหาฮีโร่ซัพประจำตัว Disruptor เป็นอีกหนึ่งฮีโร่ที่ซัพพอร์ตอย่างคุณต้องเรียนรู้
อย่างที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้นว่า Disruptor เป็นฮีโร่ที่มี impact ตั้งแต่เลเวล 1 ไปจนถึงช่วงท้ายเกม ในช่วงเลเวล 1 Disruptor สามารถใช้สกิล Thunder Strike กดดันเลนได้เป็นอย่างดี คุณใช้สกิลนี้กับฮีโร่ฝ่ายตรงข้ามในเลน 2 ครั้งติดต่อกัน หากเขาไม่ได้พกยาปั้มมาเยอะ เขาก็แทบจะเข้าเลนไม่ได้แล้ว
ในช่วงกลางเกม Disruptor จะเริ่มมีบทบาทในการไฟท์ที่มากขึ้นด้วยการใช้สกิล Glimpse และ สกิล Static Strom ต้องบอกเลยว่าสกิล Glimpse แสบมาก ๆ เป็นการถึงยูนิตกลับมายังจุดก่อนหน้า 4 วินาที วิธีที่จะใช้สกิล Glimpse ให้เกิดประโยชน์สูงสุดก็คือดึงศัตรูกลับมากำจัดให้ได้แน่นอนอันนั้นทุกคนรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าจะเพิ่มทวีคูณความแสบสัน หากทีมฝ่ายตรงข้ามของคุณวาร์ปลงมาคุณที่เป็น Disruptor ก็แค่กด Glimpse ใส่ฮีโร่ที่พึ่งวาร์ปลงมาเพียงเท่านั้น เขาก็จะกลับไปยังจุดที่พึ่งวาร์ปมา และเสียใบวาร์ปไปแบบฟรี ๆ ฮาฮา!!
แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะรอใช้แต่จังหวะแบบนี้นะ ให้ไหลไปตามสถานการณ์เกมจะดีกว่า ส่วนสกิล Static Strom ใช้งานง่ายอยู่แล้ว แค่วางสกิลลงพื้นฮีโร่ที่อยู่ในวงล้อมนั้นก็ถูกทำให้อยู่ในสถานะใบ้นั้นเอง และที่บอกว่ามีผลช่วงท้ายเกมก็คือหาก Disruptor ออกไอเท็ม Scepter / Static Strom จะเพิ่มสถานะใบ้ไอเท็มใช้งานอีกด้วยเรียกได้ว่า impact สุด ๆ
ข้อควรระวัง
Disruptor เป็นซัพพอร์ตที่เล่นเกมตามได้ยากมาก เพราะ Disruptor ไม่มีสกิลสตั้นมีแต่ล็อคกับใบ้ ซึ่งถูกแก้ทางง่ายหากฝ่ายตรงข้ามได้เปรียบทีมคุณมาก ๆ เพราะฉะนั้น Disruptor ก็เป็น Pick ที่เสี่ยงเช่นเดียวกัน
7.Pugna
สำหรับฮีโร่อย่าง Pugna นั้นถ้าไม่คิดจะเล่นก็แบนทิ้งไปได้เลย ฮีโร่สไตล์โถมเกมที่แท้ทรูโถมขนาดที่ว่าคุณแทบจะไม่มีโอกาสได้สู้เลยทีเดียว ด้วยความที่ Pubgna มีดาเมจสกิลที่หนักมากในช่วงต้น แถมสกิลยังคูลดาวน์เร็วอีกด้วย ทำให้ Pubgna สามารถเดินเกมได้อย่างต่อเนื่อง
สกิล Nether Blast เป็นสกิลที่ค่อนข้างโกงถ้าจะใช้คำนี้ก็ไม่ผิดอะไร เพราะเป็นดาเมจที่สามารถทำลายสิ่งก่อนสร้างได้แถมสกิลเป็นหมู่ด้วยนะ พูดง่าย ๆ คือ โดนทั้งคนโดนทั้งป้อม
วิธีการเล่น
Pugna เป็นฮีโร่ที่สามารถเล่นได้ทั้ง ซัพพอร์ต และตัว Core แถมเป็นฮีโร่ที่เข้าแพตช์ 7.26c นี้สุด ๆ หากจะเล่นเป็นซัพพอร์ตเวลาเราเลือกก่อน เราก็สามารถสร้างปัญหาให้กับทีมฝ่ายตรงข้ามได้แล้ว ทีมตรงข้ามต้องพยายามหาตัวมาเล่นกับ Pugna ให้ได้ ยิ่งช่วงต้นเกมแครี่สายตี เจอ Pugna ถึงกับต้องปวดหัวไปตาม ๆกัน
Pugna ซัพพอร์ตจะเก่งมากหากเราสามารถให้สกิล Decrepfity ได้ถูกจังหวะ และการใช้สกิล Nether Ward ในตำแหน่งที่ดี แต่ความลับของปีศาจที่นอนหลับไหลอยู่ในตัว Pugna ก็คือ สกิล Life Drain ที่สามารถฮิลเพื่อนได้โดยใช้เลือดตัวเอก และสามารถใช้สกิลเดียวกันนี้กับครีปได้เพื่อให้ตัวเองเลือดเต็ม
ทว่า Pugna ตัว Core เป็นอะไรที่โหดเหี้ยมมาก เพราะ Pugna เป็นฮีโร่ที่คุมเลนเก่งมากทำให้ฮีโร่อย่าง Pugna สามารถสร้างความได้เปรียบในเลนให้กับตัวเองได้ เช่นสกิล Decrepfity ถ้า Pugna ยืนเลนกับฮีโร่สายตี ที่ไม่มีความสามารถในการลาสครีปด้วยสกิลจะเล่นยากมาก ๆ แต่ถ้าไปเจอกับฮีโร่ที่ใช้สกิลบ่อย ๆ ก็จะโดน Nether Ward อีก เรียกได้ว่าพิษสงแพรวพราว
ข้อควรระวัง
Pugna เป็นฮีโร่ที่ตายง่ายหากโดนเข้าถึงตัวอาจหายไปง่าย ๆ ได้เลย และอีกเช่นเคย Pugna ในเกมตามจะเหงามาก
และนี้เป็นทั้ง 7 ฮีโร่ที่ gamer เราได้มาแนะนำกันสำหรับใครที่เล่นฮีโร่ 1 ใน 7 ตัวนี้อยู่แล้ว มาบอกเรากันหน่อยครับว่า มันทำให้แรงค์ของคุณขึ้นได้จริงหรือไม่อย่างไร พวกเรากำลังรอฟังคุณอยู่ครับ
ขอให้สนุกกับโลก Dota2