Mini-14 Design Marksman Rifle
Mini 14 DMR หรือที่เรียกกันว่า มินิปืนสายเคาะ เป็นปืนไรเฟิล น้ำหนักเบา พลังทำลายก็เบาด้วยแต่ที่บอกว่าเบาเนี่ยคือเบาที่สุดถ้าไม่นับ VSS นะครับแต่ถ้าโดนขึ้นมาก็เจ็บใช่ย่อยอยู่นะครับ
จุดเด่นปืน Mini 14
Mini 14 นับว่าเป็นปืน DMR ที่ยิงง่ายที่สุด น้ำหนักเบา เคลื่อนที่คล่องตัว จุดเด่นที่สุดของปืนนี้คือ กระสุนตรง วิถีกระสุนหวังผลได้ไกล การเคลื่อนที่ของกระสุนไว ทำให้ไม่ต้องกะระยะมากนัก โอกาศโดนเป้าหมายจึงสูงกว่าปืน DMR อื่นๆมาก ถึงแม้ดาเมจจะเบากว่า DMR อื่นๆแต่แลกมาด้วยอัตราการเข้าเป้ามากกว่าผมว่าคุ้มที่จะแลกอยู่นะครับ ของแต่งก็ไม่ต้องใช้เยอะมากเพียงแค่มีปืนและกล้องเพิ่มระยะก็สามารถยิงได้สบายเลยครับผม
ความแรงของปืน
ทดสอบด้วยเกราะเลเวล 2
เมื่อยิงช่วงลำตัวสามารถจัดการคู่ต่อสู้ด้วยความเร็วที่สุดใน 0.3 วินาที ด้วยจำนวนกระสุน 4 นัด
– เมื่อยิงหัวจะสร้างความเสียหาย 64.8
– เมื่อยิงอกจะสร้างความเสียหาย 31.8
– เมื่อยิงท้องจะสร้างความเสียหาย 27.5
– เมื่อยิงมือและเท้าจะสร้างความเสียหาย 13.1
ประวัติความเป็นมา
Ruger Mini-14 คือปืนไรเฟิล 5.56 กึ่งอัตโนมัติหรืออัตโนมัติที่ถอดแบบมาจากปืนไรเฟิล M14 ของกองทัพสหรัฐจะเรียกมันว่าเป็นเวอร์ชั่นย่อส่วนของ M 14 ก็ว่าได้ออกแบบโดย L. James Sullivan และ William B. Ruger ผลิตโดยบริษัท Sturm, Ruger ผู้ผลิตปืนชื่อดังของสหรัฐปืนไรเฟิลชนิดนี้เดิมทีออกแบบให้เป็นปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติเท่านั้นสำหรับตลาดพลเรือน โดยจะแบ่งออกเป็น 2 รุ่นตามปีคือรุ่นก่อนปี 2005 คือรุ่นต้นตำรับที่ไม่มีฐานสำหรับติดกล้องเล็งเสริม ผู้ใช้งานหากต้องการจะติดกล้องเล็งต้องดัดแปลงเอาเอง กับรุ่นหลังปี 2005 มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า “Ranch Rifle” ที่ได้ปรับแก้ศูนย์เล็งมาตรฐานพร้อมกับมีฐานสำหรับติดกล้องเล็งเสริมสำเร็จรูปที่ให้มาพร้อมกับตัวปืนหลังจากนั้นก็พัฒนารุ่นใหม่ออกมาอีกโดยทำการเปลี่ยนลำกล้องให้ทันสมัยขึ้นโดยตั้งชื่อว่ารุ่น GB (“Government Barrel”) ต่อมาได้ออกแบบรุ่นใหม่ขึ้นมาคือรุ่น AC-556 ที่มีทั้งโหมดกึ่งอัตโนมัติและอัตโนมัติเต็มรูปแบบในตัวของมันเองผู้ใช้งานส่วนใหญ่คือเจ้าหน้าที่รักษากฎหมายท้องถิ่นหรือพลเรือนที่ได้รับอนุญาตให้มีปืนอัตโนมัติในบางรัฐของอเมริกา
ข้อมูลปืน
- ใช้กระสุน 5.56 mm
- จำนวนบรรจุกระสุนสูงสุด 30 นัด
- โหมดการยิง Single
- ระยะหวังผล 100-300 เมตร
การฝึกฝน
ถึงแม้ว่า Mini-14 จะยิงง่ายที่สุดก็ตาม แต่ก็ยังต้องกะระยะกระสุนตก ระยะเวลาการเดินทางของกระสุนอยู่ดีครับผม เพราะว่าในสถานการณ์จริง หาก 4 นัดแรกพลาดเป้าไป เราอาจจะไม่ได้เป็นฝ่ายได้เปรียบก็เป็นได้ครับ
แอดมินแนะนำ ระบบ Training Mode ช่วยท่านได้ครับ โดยวิธีซ้อมให้ไปเล็งเป้าเคลื่อนที่ในระยะ 300 เมตรขึ้นไปครับ เพื่อทำความคุ้นเคยกับระยะการตกของกระสุนครับผม และพยายามยิงให้โดนทุกนัดครับ ในสถานการณ์จริงถ้าเรายิงโดนทุกนัดได้เป้าหมายก็หมดโอกาสตอบโต้เราครับผม