King’s Field เกมต้นตำหรับแนว Indie RPG ของ ค่ายพัฒนาชื่อดัง FromSoftware ที่เคยเปิดตัวตั้งแต่ 16 ธันวาคม 1994 ในเครื่อง PlayStation ต้นตำหรับหรือ PS1 ซึ่งเป็นเกมแรกของค่ายพัฒนานี้ตั้งแต่ยุคก่อตั้งสตูดิโอที่ยืนพื้นในแนวเกม Dark Fantasy ที่คงความยากในการเล่นมาตั้งแต่ยุคนั้น เรียกได้ว่าเกมนี้คือต้นตระกูลของซีรีส์ Dark Soul, Bloodborne หรือ Elden Ring ก็ว่าได้ ซึ่งคนในวงการเกมหลายคนนั้นอยากจะเห็น King’s Field กลับมามีชีวิตอีกครั้งหนึ่ง
King’s Field ซึ่ง Naotoshi Zin ดำรงตำแหน่งโปรดิวเซอร์ดั้งเดิมของเกมภายใต้การกำกับของประธานอย่าง Hidetaka Miyazaki เป็นเกมที่ถือว่าอยู่ในยุคช่วงต่อระหว่างเกมคอนโซลและเกม RPG ของคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ในช่วงต้นทศวรรษ 90 รูปแบบเกมจะผสมผสานการต่อสู้แบบเรียลไทม์ การเคลื่อนไหวแบบมุมมองบุคคลที่หนึ่งอย่างอิสระ และการสำรวจพื้นที่ต่างๆ ในดันเจี้ยนและต่อสู้กับศัตรูที่ใช้กันมากสำหรับเกมยุคนั้นตัวอย่างเช่น Ultima Underworld ของค่าย Blue Sky Productions ที่เคยได้รับความนิยมในยุค 90 เช่นเดียวกัน ผสมกับรูปแบบเล็กน้อยของ RPG ระดับตำนานอย่าง Dragon Quest ผลที่ได้ก็คือเกมแนว Dark Fantasy มุมมองบุคคลที่หนึ่งที่มีความเป็น RPG รวมอยู่ด้วย ถือว่าแปลกและแหวกแนวมากในยุคนั้น
แม้ว่าความเป็นมาของ King’s Field จะสำคัญมากสำหรับ FromSoftware แต่แฟนเกมน้อยคนมากๆ ที่จะรู้จักเกมนี้ ซึ่งคนในวงการหลายคนที่เห็นความสำเร็จระดับสูงของ Elden Ring รวมไปถึงการกลับมาอย่างสวยงามอีกครั้งของ Demon’s Souls จึงได้ตั้งคำถามว่า “แล้ว King’s Field จะกลับมาได้บ้างไหม” โดยที่ Michael Alexander Tröls นักออกแบบเกมอิสระกล่าวไว้ในปี 2014 ว่า
“ความประทับใจแรกของผมเกี่ยวกับ King’s Field (ที่ขายในสหรัฐฯ) ภาคแรกอาจคล้ายกับผู้เล่นใหม่คนอื่นๆ ทุกคน: การควบคุมที่แย่มากและเป็นการทำลายสุนทรียภาพของเกมโดยรวม”
แต่แม้ว่า Tröls จะได้รับความประทับใจแบบแย่ๆ ในครั้งแรก แต่เขาก็ยังคงพยายามเล่นมันต่อไปซึ่งกลายเป็นว่าเขาหยุดเล่นมันไม่ได้ และเช่นเดียวกับผู้เล่นคนอื่นๆ อีกหลายคนที่ได้ค้นพบอัญมณีในเครื่อง PS1 ที่ซ่อนอยู่ซึ่งก็คือเกม King’s Field โดยที่แม้ว่าต่อมาจะมีเกมในแนวเดียวกันนี้ออกมาอีกหลายเกมไม่ว่าจะเป็น Ultima Underworld, Arx Fatalis และ Eye of the Beholder แต่เกม RPG เหล่านั้นแตกต่างอย่างมากจากรูปแบบผลงานต้นตำหรับของ FromSoftware ที่คล่องตัวกว่าและมีบรรยากาศที่น่าติดตามมากกว่า และด้วยแรงบันดาลใจจากสิ่งที่เขาเรียกว่า “ขาดทางเลือกอย่างรุนแรง” Michael Alexander Tröls จึงตัดสินใจเติมช่องว่างด้วยเกม RPG ของเขาเองที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก King’s Field โดยใช้ชื่อว่า Monomyth ในสไตล์ Metroidvania ซึ่งเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปี 2022
Devil Spire คืออีกหนึ่งเกมที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก King’s Field ในการสร้างโดย Ithiro Sumi เจ้าของผลงานได้นำเอาการผสมผสานระหว่างตัวละคร 2D lo-fi และสภาพแวดล้อม 3D แบบบล็อคเข้าด้วยกัน แต่แทนที่เกมจะเป็นพื้นที่ด่านที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน Sumi กลับเลือกดันเจี้ยนที่สร้างขึ้นตามขั้นตอนที่จำกัดมากกว่า โดยเขากล่าวถึงเกมไว้ว่า
“ผมมีความชื่นชมอย่างมากสำหรับคนรุ่นต่อรุ่น และประสบการณ์แบบเกม Rogueite โร๊คไลต์สามารถมอบประสบการณ์ให้คุณได้ ผมรู้สึกว่าทั้งสองอย่างสามารถรวมกันได้จริงเพื่อให้สิ่งที่อยู่ในใจของผมมีชีวิตขึ้นมาได้”
“ผมไม่คิดจะสนใจมากนักสำหรับเกมสไตล์ ‘King’s Field-likes’ เนื่องจากคนส่วนใหญ่ไม่รู้จัก จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ก็สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ” Aesir Aesthetics ผู้พัฒนาอินดี้และเจ้าของช่อง YouTube รวมถึง Twitch ได้กล่าวถึง King’s Field ที่เขาได้รองสัมผัสและได้กล่าวประเมินเกมจากยุคเก่านี้ไว้ว่า “ในขณะที่ผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เข้าสู่เกมเหล่านั้นเพื่อหาเนื้อหาต่างๆ อุปสรรคในการเข้าเกมก็ลดน้อยลงเรื่อยๆ ตามมาด้วย” (คำกล่าวของนักพัฒนาที่ยากจะเข้าใจ) แต่ก็เช่นเดียวกันกับแฟนเกมคนอื่นๆ Aesir ผู้เป็นแฟนตัวยงของ Demon’s Souls และ Dark Souls มานานก่อนที่จะได้สัมผัสกับ King’s Field ซึ่งเขาทำตามคำเรียกร้องของผู้ชมเท่านั้น และความประทับใจครั้งแรกของเขานั้นก็ไม่น้อยกว่าผู้พัฒนารายอื่นๆ
“ตอนแรกผมคิดว่า King’s Field ภาคแรกเป็นเรื่องบ้าๆ บอๆ แต่ผมก็จะเข้าไปทดลองดู และเมื่อมันคลิกเข้าไปผมก็ตกหลุมรักมัน”
Kira ผู้พัฒนาเกมและนักดนตรีที่รู้จักกันดีในฉากสยองขวัญอินดี้ด้วยเกมอย่าง Lost in Vivo และ Uktena 64 คืออีกหนึ่งคนที่ได้สัมผัส King’s Field ซึ่งเขาก็กล่าวว่า “ผมคิดถึงจังหวะที่ช้ากว่าและความรู้สึกของความแปลกประหลาดของเกมที่มีงบประมาณต่ำ [หมายถึงซอฟต์แวร์โบราณ] จะทำได้ขนาดนี้” ถือเป็นอีกหนึ่งความประทับใจจากผู้พัฒนาเกมที่กำลังมีโปรเจ็กต์ใหม่ล่าสุดคือ Lunacid เป็นเกม RPG ที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก King’s Field ซึ่งรวบรวมข้อมูลดันเจี้ยนอื่นๆ ที่ถูกลืมของ FromSoftware, Shadow Tower และ Shadow Tower Abyss
James Wragg หัวหน้าผู้พัฒนาเกม RPG ย้อนยุค 3 มิติ Dread Delusion กล่าวถึง King’s Field ว่า “ในบางแง่มุมนั่นสอดคล้องกับความแปลกประหลาดและความลึกลับของเกมจริงๆ มันเป็นตำนานที่กระซิบด้วยน้ำเสียงที่เงียบงัน แม้ว่าจะมีน้อยคนที่ได้สัมผัสมันโดยตรง” โดยที่ Wragg บอกอย่างเปิดเผยว่าได้แรงบันดาลใจหลักอื่นๆ สำหรับฉากของ Dread Delusion มากกว่าแค่เกมจาก FromSoftware แต่รูปแบบแนวทางที่เป็นพื้นฐานของ King’s Field นั้นคือสิ่งที่เขาได้มันมามากที่สุด
“ในยุคนี้นักพัฒนามีเครื่องมือในการใช้สร้างเกมที่ทันสมัยกว่ายุคก่อนมากมายรวมถึงองค์ความรู้ในการสร้างเกม 3D RPG ก็มีอยู่จนนับไม่ถ้วน ในขณะที่เกม RPG ราคาประหยัดจำนวนมากหยุดนิ่ง” [James Wragg] “ในฐานะนักพัฒนา เราสามารถดึงแรงบันดาลใจจากอดีต ทั้งด้วยกลไกและสุนทรียภาพ ในขณะที่คิดค้นและทดลองในแบบของเราเอง มันน่าตื่นเต้นจริงๆ”
การถูกกล่าวถึงของ King’s Field ในด้านแรงบันดาลใจในการพัฒนาเกมของนักพัฒนารู่นใหม่ๆ กลายเป็นที่น่าสนใจมากขึ้นสำหรับแฟนเกมในยุคปัจจุบัน FromSoftware ที่เวลานี้มีผู้ถือหุ้นเพิ่มเข้ามามากยิ่งขึ้นกว่าเดิมซึ่งก็จะนำมาซึ่งทุนสร้างและบุคลากรที่เพิ่มขึ้นกว่าเดิม การนำเอาชื่อเกมเก่าๆ มาปัดฝุ่นใหม่ในรูปแบบ Remaster หรือ Remake ก็ถูกถามมากขึ้นเช่นกัน และในฐานะเกมต้นตระกูลของสตูดิโอที่ถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจมาหลายต่อหลายรุ่นก็น่าสนใจว่าประธานอย่าง Hidetaka Miyazaki นั้นอยากจะให้มันเกิดขึ้นเหมือนกับ Demon’s Souls หรือไม่
ที่มา: https://www.gamespot.com
