John Smedley ตำแหน่งผู้บริหารระดับหัวหน้าของ Amazon Games ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งอดีตประธาน Sony Online Entertainment เปิดเผยว่าเขาได้ลาออกจากสตูดิโอเรียบร้อยแล้วหลังจากอยู่ใน Amazon Games San Diego เป็นเวลาหกปี โดยที่มีเหตุผลว่าตลอกเวลาที่เขาดำรงตำแหน่งอยู่นั้นไม่ได้มีผลงานหรือโปรเจกต์ใดๆ ที่โดดเด่นออกมาเลย
John Smedley เริ่มต้นทำงานในด้านบริหารตั้งแต่ในช่วงต้นทศวรรษที่ 90 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ Sony ในปี 1996 โดยได้รับมอบหมายให้ดูแลการพัฒนาด้านเกม Online-RPG ของ Sony Interactive Studios America และได้เปลี่ยนชื่อเป็น 989 Studios ซึ่งได้มีผลงานเกม MMORPG ที่โดดเด่นออกมาได้แก่ EverQuest ที่ร่วมมือกันกับ Verant Interactive ในการสร้าง และหลังจากนั้นก็ยังมีผลงานเด่นๆ ออกมาอีกไม่ว่าจะเป็น Star Wars Galaxies, The Matrix Online หรือ DC Universe Online ต่อมาจนถึงปี 2015 บริษัทก็ได้เปลี่ยนชื่ออีกครั้งเนื่องจากมีการขายสตูดิโอในกลับกลุ่มทุนรายใหม่ซึ่งเป็นช่วงที่ Smedley ออกไปจากบริษัทไม่นานนัก ซึ่งหลังจากนั้นเขาก้ได้เข้าไปร่วมงานที่ Amazon Games San Diego และอย่างที่ทราบว่าหลังจากนั้น 6 ปี เขาก้ได้ลาออกจากบริษัทในที่สุด ตามข้อมูลจาก Bloomberg รายงานว่า Smedley บอกกับทีมงานทางอีเมลว่า
“หลังจากคิดทบทวนอย่างหนัก ฉันตัดสินใจว่าถึงเวลาแล้วที่ฉันจะลองทำสิ่งใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง”
โดยที่หลายฝ่ายยังไม่ทราบเหตุผลที่แน่ชัดว่าเขาลาออกไปด้วยสาเหตุที่แท้จริงประการใด แต่ก็มีการให้ข้อสังเกตว่าในช่วงเวลาที่ John Smedley ดำรงตำแหน่งผู้บริหารของ Amazon Games นั้นไม่ได้มีเกมที่ Amazon Games San Diego พัฒนาอยู่ได้รับการเผยแพร่ออกมาเลย อีกทั้งมีการเชื่อมโยงไปถึงการปลดพนักงานหลายครั้งที่ Amazon Games และการจากไปของหัวหน้าสตูดิโอ Mike Frazzini ที่อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกันในเบื้องหลัง

เป็นที่ทราบกันดีว่าผลงานของ Amazon Games นั้นถือว่าค่อนข้างลำบาก แม่ว่า New World ที่พัฒนาโดย Amazon Games Orange County จะได้รับความนิยมอยู่บ้าง แต่การจะขายเพียงแค่เกมเพียงเกมเดียวกับชื่อเสียงบริษัทที่ใหญ่ระดับนี้คงต้องถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ไม่ดีเอาเสียเลย ยิ่งการที่หัวหน้าผู้บริหารลาออกไปด้วยเหตุผลที่ไม่ชัดเจนก็ยิ่งเป็นผลเสียต่อชื่อเสียงยิ่งขึ้นอีก แต่ทั้งนี้นอกจาก New World ที่ยังคงยืนหยัดอยู่ได้ พวกเขาก็ยังมี Lost Ark เกม MMORPG สัญชาติเกาหลีใต้ซึ่งได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม โดยที่ในช่วงเปิดตัว 24 ขั่งโมงแรกนั้นเกมมีผู้เล่นสูงเป็นอันดับที่ 2 บน Steam เลยทีเดียว ทั้งนี้ทั้งนั้นแน่นอนว่านี่เป็นเพียงช่วงไม่กี่ปีแรกที่ Amazon ก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเกมอย่างเต็มตัว ด้วยบริษัทใหญ่ระดับนี้ ยังมีเวลาที่พวกเขาจะสร้างผลงานในธุรกิจนี้อีกมาก แต่ที่ยังไม่ทราบแน่ชัดก็คืออดีตหวัหน้าสาขาใหญ่สาขาหนึ่งของบริษัทตามข่างนั้น จะไปเริ่มต้นที่ไหนต่อไป
ที่มา: https://gamerant.com