แม้จะยังคงกำหนดวางจำหน่ายไว้ในปี 2022 สำหรับ Digimon Survive เกมดังจากผู้จัดจำหน่าย Bandai Namco Entertainment แต่ล่าสุดเกมได้มีการเปลี่ยนทีมพัฒนาแล้วเรียบร้อยจากทีม Witchcraft ที่พัฒนามาตั้งแต่แรก เปลี่ยนมาเป็น Hyde Studio มารับช่วงต่อ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกมนั้นล่าช้าออกไปจากที่เคยมีการเลื่อนวันวางจำหน่ายมาแล้วกลายครั้งก่อนหน้านี้


Digimon Survive อีกหนึ่งเกมที่แฟนเกมรอคอยกันมาอย่างยาวนานซึ่งเคยกำหนดว่าจะวางจำหน่ายในปี 2019 แต่ก็ถูกเลื่อนออกไปเป็นปี 2021 และ 2022 โดยที่ไม่มีการบอกถึงสาเหตุของการล่าช้าดังกล่าวเลยจากทั้งผู้พัฒนา Witchcraft และ Bandai Namco Entertainment ผู้จัดจำหน่าย ทำให้แฟนเกมต่างสงสัยกันว่าสาเหตุที่ล่าช้านั้นมาจากอะไรกันแน่ และที่สำคัญล่าสุดยังมีวี่แววว่าเกมอาจจะล่าช้าออกไปอีกหลังจาก Kazumasa Habu เจ้าหน้าที่ของ Bandai Namco ได้อัพเดทข้อมุลล่าสุดของ Digimon Survive ในงาน Digimon Con 2022 ไว้ว่าเกมนั้นได้เปลี่ยนผู้พัฒนาจาก Witchcraft ไปเป็น Hyde แล้วเรียบร้อยในเวลานี้ ซึ่งส่งผลให้แฟนเกมเริ่มตั้งคำถามกันอย่างหนาหูว่าเกมจะถูกเลื่อนวันวางจำหน่ายไปอีกครั้งหรือไม่ โดยที่ Habu นั้นยังเสริมข้อมูลให้อีกว่า Digimon Survive นั้นไม่ได้ถูกเริ่มต้นใหม่เหมือนกับที่ทำกับเกม Metroid Prime 4 แต่มันเป็น “การทำงานใหม่เป็นจำนวนมาก” และ “ใช้เวลานานขึ้น” เล็กน้อย
นอกจากนี้ Kazumasa Habu ยังเปิดเผยรายละเอียด คุณสมบัติ และกลไกใหม่ๆ สำหรับ Digimon Survive ที่อาจจะช่วยเอาใจแฟนเกมได้บ้าง โดยที่ผู้เล่นสามารถควบคุม Digimon ได้ถึง 10 ยูนิตในการต่อสู้เป็นต้น และเกมจะมีฉากจบทั้งหมด 4 แบบ ซึ่งหนึ่งในฉากจบนั้นยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลออกมา โดยที่ผู้เล่นสามารถเล่นเกมให้จบได้แบบเส้นตรงในเวลาประมาณ 40 ชั่วโมง ส่วนการรับประสบการณ์โดยรวมทุกเส้นทางของเกมทั้งหมดจะใช้เวลาอยู่ที่ 80-100 ชั่วโมง ตามที่ Habu ให้ข้อมูลไว้


Digimon Survive เป็นการปรับเปลี่ยนธีมของเกมจากรูปแบบเก่าใน 113 Digimon ไปมากพอสมควร และยังมีองค์ประกอบเสริมมากมายอย่างเช่น New Game Plus ที่จะมีดันเจี้ยนและอุปกรณ์ใหม่ๆ เสริมเข้ามา ระดับความยากของเกมที่มีให้เลือกทั้ง Very Easy, Easy, Normal, and Difficult เพื่อรองรับผู้เล่นทุกแบบ แต่น่าเสียดายที่เกมไม่มีระบบผู้เล่นหลายคนที่แฟนเกมอยากได้
Digimon Survive กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาสำหรับ Microsoft Windows, Nintendo Switch, PlayStation 4 และ Xbox One
ที่มา: https://gamerant.com