Call of Duty: Warzone เกมแนว Battle Royale ที่เพิ่งเปิดมาไม่นานและยังให้บริการแบบฟรีไม่มีค่าใช่จ่าย ซึ่งได้รับความนิยมสูงมากในชั่วโมงนี้แม้ว่าจะมีเสียงวิจารณ์อยู่บ้างในเรื่องขนาดของพื้นที่จัดเก็บที่ใหญ่มาก แต่ก็ถือเป็นเรื่องที่รับมือได้ไม่ยากสำหรับแฟนเกมที่ต้องการเข้าเล่นเกมดังกล่าวนี้ ซึ่งล่าสุดทาง Activision ได้ประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า Call of Duty: Warzone ได้เพิ่มโหมดผู้เล่นเดี่ยว (Solos) อย่างเป็นทางการแล้ว


ช่วงเปิดให้บริการในช่วงแรก Call of Duty: Warzone เปิดให้เล่นในแบบทีมเท่านั้นทั้งในโหมด Battle Royale และ Plunder ซึ่งยังต่างกับเกม Battle Royale ค่ายอื่น ๆ ทีมีการเล่นแบบ Solo ได้ด้วย ซึ่งก็เป็นที่เรียกร้องของแฟน ๆ ต่อเกม Call of Duty: Warzone ให้มีโหมดผู้เล่นเดี่ยวดังกล่าวเพิ่มเข้ามา ซึ่งทาง Activision ก็ได้ประกาศเพิ่มโหมดดังกล่าวตามคำเรียกร้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วผ่านทาง blog อย่างเป็นทางการของ Activision
ข้อมูลเบื้องต้นของระบบ Solos มีดังนี้
คุณจะเข้าสู่ดินแดน Verdansk ที่เป็นพื้นที่สงคราม Battle Royale ของเหล่าผู้เล่นอีกนับ 100 โดยมีปืนพกและกระสุนเพียงเล็กน้อยติดตัว ให้ความรู้สึกเหมือน Free-For-All ในเกม Call of Duty แบบดั้งเดิมภายในพื้นที่ขนาดใหญ่มาก
———-
คุณมีภารกิจที่ต้องเอาตัวรอดด้วยเงื่อนไขเดียวกันกับผู้เล่นแบบทีมไม่ว่าจะ ปล้นเงิน, ค้นหา Contracts, และต่อสู้เอาชีวิตรอด ภายใต้ผู้เล่นทุกคนที่หมายเอาชีวิตคุณซึ่งสูงสูดถึง 1 ต่อ 149 ชีวิต เลยทีเดียว
———-
Gulag หรือ “Prisoner of Warzone” นั้นยังคงอ้าแขนรับผู้เล่น Solos แบบเดียวกันกับผู้เล่นทั่วไป เพียงแต่ผู้เล่น Solos จะถูกส่งมาที่ Gulag นี้ทันทีที่โดนจู่โจมจนล้มลงเพราะไม่มีใครสามารถใช้ Medkit ฉุดผู้เล่น Solos ขึ้นมาได้
———-
เงื่อนไขการชนะของผู้เล่น Solos เป็นเงื่อนไขเช่นเดียวกันกับผู้เล่นทั่วไป คือการเหลือรอดชีวิตเป็นคนสุดท้ายนั่นเอง


กลยุทธ์เบื้องต้นของผู้เล่น Solos
เนื่องจากคุณต้องเข้าไปในสมรภูมิรบโดยที่ไม่มีเพื่อนร่วมทีมเลย การตัดสินใจในการเคลื่อนไหวถือเป็นสิ่งที่สำคัญและท้าทายอย่างยิ่งเพราะการตัดสินใจผิดเพียงครั้งเดียวอาจหมายถึงการเข้าไปในวงล้อมกระสุนจากทุกทิศทาง เมื่อเริ่มโดดลงจากเครื่องบินลงสู่พื้น อาวุธที่สำคัญที่สุดของผู้เล่น Solos ก็คือข้อมูลต่าง ๆ ที่จะกลายเป็นอาวุธที่ทรงพลังที่สุดเพื่อความอยู่รอด


สิ่งที่จะช่วยให้อยู่รอดได้ดีขึ้นนั้นจึงได้แก่ Recon Drone, Heartbeat Monitor และ UAV เพื่อหาข้อมูลในพื้นที่ให้ได้มากที่สุด และเมื่อต้องมีการปะทะกับผู้เล่นอื่นให้รําลึกไว้เสมอว่าต้องจัดการผู้เล่นอื่นให้ออกจากเกมให้ได้เท่านั้น การยิงทีเผลอ หรือการแอบซุ่มเพื่อการเก็บคู่ต่อสู้ในจังหวะสุดท้ายถือเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ไม่เช่นนั้นทีมของจะสามารถใช้ Medkit ช่วยกลับขึ้นมาสู้กับคุณได้อีกครั้ง ต่างจากผู้เล่น Solos ที่ไม่มีใครคอยช่วยและจะถูกส่งไปยัง Gulag ทันทีที่ล้มแค่ครั้งเดียว
———-
การเลือกที่จะหลบหนีในสถานการณ์ที่จำเป็นจึงถือเป็นการเลือกที่ฉลาดมากกว่าน่าอาย เพราะจงอย่าลืมว่ากำลังสู้อยู่กับอีก 100 กว่าคนที่พร้อมหันปืนเข้าใส่คุณอยู่ตลอดเวลา
———-
เลือก Contracts ที่เป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับผู้เล่น Solos ซึ่งแนะนำให้เลือก Recon Contracts เป็นดีที่สุด เพราะว่าการ Station Capture (ค้นหาสถานี) ของผู้เล่นเดี่ยวนั้นจะรวดเร็วกว่าผู้เล่นอื่นทั่วไปถึง 50%


ด้วยข้อมูลเบื้องต้นเหล่านี้ก็หวังว่าเหล่ามหาป่าเดียวดายทั้งหลายจะได้รับประโยชน์ในการเล่นแบบ Solos อย่างเต็มที่ และยังมีประโยชน์กับผู้เล่นทั่วไปที่ต้องการเข้าไปเล่น Call of Duty: Warzone ด้วยตัวคนเดียวได้โดยที่เพื่อนร่วมทีมไม่พร้อม ก็สามารถเข้ามาฝึกฝีมือคนเดียวได้ในโฆมด Solos นี้