อุตสาหกรรมเกม ถือเป็นวงการที่น่าจับตามอง
ในปัจจุบัน คนเล่นเกมมีอยู่ 2,300 ล้านรายทั่วโลกและมากขึ้นเรื่อยๆ
และตลาดก็มีมูลค่ารวมสูงถึง 4.4 ล้านล้านบาท
แน่นอนว่าการเล่นเกมนั้น ย่อมต้องมีการสื่อสารเข้ามีเกี่ยวข้องอยู่บ้างเพราะการเล่นเกมในระบบ Multiplayer นั้นให้อารมณ์ในการเล่นได้ดีกว่าเล่นคนเดียวเป็นใหนๆ ซึ่งก็มีหลายโปรแกรมในการสื่อสาร ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Discord ที่ดูโดดเด่นกว่าค่ายอื่นๆอยู่พอสมควร
Discord คือหนึ่งในช่องทางการสื่อสาร ซึ่งแน่นอนการเล่นเกมที่ดีต้องมีการสื่อสารที่ดีด้วยในทีม เพื่อบรรลุจุดประสงค์หลักในการทำงาน หรือในการเล่นเกมเป็นทีม ซึ่ง Discord สามารถสื่อสารได้ทั้งการแชท การพูดคุยกันด้วยเสียง ได้แม้กระทั่งส่งไฟล์ต่างๆให้กัน สามารถถ่ายทอดสดการเล่นเกมให้เพื่อนดูได้ด้วย และที่สำคัญทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เปิดให้ใช้บริการกันฟรีๆ
หรือจะสนับสนุน Discord ได้ด้วยการจ่ายเป็นรายเดือนได้ด้วย
ค่าบริการเดือนละ 160 บาท ก็จะได้บริการอื่นเสริม เช่น รูปโปรไฟล์ขยับได้, ออกแบบ Emoji เองได้ หรือ ส่งไฟล์ได้ขนาดใหญ่ขึ้น เป็นต้น
พระเจ้าช่วยใจดีจริงๆ ทำโปรแกรมให้ใช้แบบไม่หวังผลกำไร สุดยอดจริงๆ
สาเหตุที่เปิดให้ใช้กันฟรีน่าจะเป็นเพราะความต้องการของ CEO นะครับผมเนื่องจากโปรแกรมนั้นไม่ต้องการที่จะมาเก็บเงินกับ User แต่เป้าหมายของเค้าไกลกว่านั้น เป้าหมายที่แท้จริงของ Discord น่าจะเป็นการหาสปอนเซอร์ และช่องทางอื่นๆอยู่นะครับ
เพราะตอนนี้ Discord กำลังเดินหน้าโปรเจคใหญ่อยู่
โดยสถานะและรายละเอียด ตอนนี้ของ Discord คือ
Discord เปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2015 จากสองผู้ให้กำเนิดอย่าง Jason Citron ในตำแหน่ง CEO และ Stanislav Vishnevskiy ในตำแหน่ง CTO
ปี 2017 Discord มีสมาชิก 90 ล้านบัญชี
ปี 2018 Discord มีสมาชิก 200 ล้านบัญชี
และในต้นปี 2019 Discord มีสมาชิก 250 ล้านบัญชี
ทั้งนี้ โปรแกรมมีผู้ใช้บริการในแต่ละวันราว 14 ล้านบัญชี และมีการส่งแช็ตเฉลี่ยวันละ 315 ล้านข้อความ
จากฐานลูกค้าดังกล่าว ทำให้ในการระดมทุน เมื่อปลายปี 2018 นั้น Discord ถูกประเมินมูลค่าธุรกิจไว้ที่ 65,500 ล้านบาท ถือเป็นบริษัทสตาร์ตอัป ในระดับยูนิคอร์นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (ยูนิคอร์น ต้องมีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 32,000 ล้านบาท)
และเมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นพี่
Slack มีผู้ใช้บริการรายวัน 10 ล้านบัญชี ธุรกิจมีมูลค่า 230,000 ล้านบาท
จะเห็นได้ว่า แม้มูลค่าจะยังน้อยกว่า แต่ Discord มีผู้ใช้บริการเยอะกว่าแล้ว
บริษัทเปิดตัว Discord Store ไปเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2018 และพยายามจูงใจให้ผู้พัฒนาเกมมาร่วมงาน ด้วยการแบ่งปันรายได้ให้ในสัดส่วน 90% สูงกว่าคู่แข่งรายใหญ่อย่าง Steam ที่แบ่งให้เพียง 70% ซึ่งน่าจะเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวสำหรับ Steam อยู่ไม่น้อยนะครับเนี่ย
นอกจากนี้ สมาชิกที่จ่ายค่าบริการแบบ 320 บาทต่อเดือน ยังสามารถเลือกเล่นบางเกมได้ทันทีอีกด้วย
และในอนาคตช่องทางการ Steaming ที่ตอนนี้มีเจ้าใหญ่อยู่เช่น Facebook Twitch และ Mixer อาจจะกำลังจะเจอคู่แข่งใหม่ที่น่ากลัวนั่นก็คือ Discord นั่นแหละครับ เพราะตอนนี้ Discord สามารถ Steaming หน้าจอได้แล้วด้วยความสามารถที่ดูเหมือนจะดีกว่าคู่แข่ง ด้วยภาพที่คมชัด Delay น้อย และแน่นอน Gamer เกือบทุกคนต้องใช้ Discord นี่คือจุดได้เปรียบของเค้านั่นเองครับ
มาถึงจุดนี้ต้องบอกเลยนะครับว่าการสื่อสารนั้นสำคัญจริงๆครับ แต่ถ้าให้จินตนาการในแง่ธุรกิจด้วยตัวเองคงมองไม่เห็นภาพรวบได้ยิ่งใหญ่ขนาดนี้นะครับ สุดยอดจริงๆ ^^