เมื่อไม่นานมานี้ทาง EA ได้ประกาศชัดอย่างเป็นทางการผ่านช่องทางสื่อสารของตนเองเลยว่า EA นั้นได้ร่วมการเป็นพาร์ทเนอร์ชิฟทางธุรกิจกับทาง Valve อีกครั้งหลังจากที่เมินหน้าหนีกันไปตั้งแต่เมื่อปี 2011 จนตอนนี้ก็กว่า 8 ปีแล้ว
ย้อนรักร้าวเมื่อ 8 ปีก่อน
โดยสรุปคือว่าเมื่อช่วงกลางปี 2011 มีคนตาดีเห็นว่าเกม Crysis 2 ถูกถอดออกจาก Steam แบบไม่ทราบสาเหตุ แต่เกมอื่น ๆ ของ EA ขณะนั้นยังมีการวางจำหน่ายตามปกติ แล้วเกม Crysis 2 ก็ดันไปปรากฎอยู่ที่หน้า Origin ว่า “Only on Origin” หลังจากมีเรื่องแบนี้เกิดขึ้นตัวแทนของ EA ก็ได้ออกมาชี้แจงประมาณว่าที่เกมหายไปนั้นไม่ได้เป็นผลมาจากทาง EA แต่อย่างใดกลับกับเป็นทาง Steam เองต่างหากที่เป็นฝ่ายถอด Crysis 2 ออกจาก Steam สาเหตุหลัก ๆ เนื่องมาจาก Steam มีการเปลี่ยนกฎกติกาใหม่ในเรื่องของการว่างจำหน่ายเกม แล้วทาง EA ไม่สามารถปฎิบัติตามได้ จึงเป็นสาเหตุแต่นั้นมา ซึ่งรายละเอียดค่อนข้างมีความซับซ้อนทางสัญญาพอสมควร จนถึงขั้นมีการตอบโต้กันในระดับผู้บริหารแต่เป็นในรูปแบบการวิจารณ์ในเรื่องของมุมมองทางธุรกิจ
การกลับการของ EA ในครั้งนี้นำทัพเกมใหม่ของตนที่จะนำมาวางขายบน Steam ได้แก่ Star Wars Jedi : Fallen Order / The Sims4 / FIFA20 / Apex Legends และ Battlefield V ภายในปีหน้าแน่นอน และที่หลายท่านเป็นกังวลว่าเซิฟเวอร์จะแยกกันหรือไม่อย่างไร คอนเฟิร์มแล้วว่าผู้เล่นบน Steam และ Origin จะร่วมเป็นเซิฟเวอร์เดียวกันอีกด้วย ทั้งนี้ยังหมายรวมบริการ EA Access (การเช่าเกมเล่นรายเดือน) ฟีเจอร์นี้ชาว Steam ได้ใช้บริการด้วยแต่จะเป็นช่วงต้นปีหน้าสำหรับฟีเจอร์นี้
ซึ่งกลับมาพูดกันในมุมมองของผู้บริโภคอย่างเรา ๆ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีคิดเหมือนกันหรือไม่ครับ ส่วนตัวผมว่าเป็ฯเรื่องที่ดีมากครับ เพราะเราจะได้หมดปัญหาในเรื่องของการผูกบัตรเครดิตเกมนี้ค่ายนี้ พอเป็นอีกเกมที่เราอยากเลนดันเป็นอีกค่าย ต้องมานั่งทำธุรกรรมกันใหม่ กรอกข้อมูลเดิม ๆ ซ้ำไปซ้ำมา จริง ๆ ก็แอบอยากให้มารวมกันเสียให้หมดจะได้สะดวกต่อผู้บริโภค ฮาฮา!! แต่ก็อย่างว่าครับมันก็เป็นเรื่องทางธุรกิจพอที่จะทำความเข้าใจได้ในมุมมองของผู้บริโภค ตราบใดที่ยังสามารถพัฒนาเกมออกมาตอบสนองต่อความต้องการของเหล่าเกมเมอร์อย่างเราได้
EA ยังให้ข้อมูลปิดท้ายไว้อีกด้วยว่า ในอนาคตจะได้เห็นโครงการที่จะทำร่วมกับ Valve อีกมากมายโปรดติดตามกันต่อไปว่าจะมีฟีเจอร์อะไรมานำเสนอแก่เหล่าเกมเมอร์
