สุดยอด Headphone Gaming ในราคาไม่เกิน 2,000 เราคงมองข้ามหูฟัง 2 รุ่นนี้ไปไม่ได้อย่างแน่นอนเชื่อว่าหลายคนกำลังสงสัยว่าหากจะเปลี่ยนมาใช้หูฟังแบบนี้บ้างในราคาที่ไม่แรงมากจะใช้รุ่นไหนดี แต่ละรุ่นมีข้อดีข้อเสียอย่างไร วันนี้ Gamerr.net เรามีคำตอบ

ตั้งแต่ Razer บุกตลาดหูฟังแบบ Headphone Gaming อย่าง รุ่น Pro และ Pro.v2 เมื่อหลายปีก่อนก็ถือว่าได้เสียงตอบรับเป็ฯอย่างดีเรียกได้ว่าร้านไหนสั่งมากี่ชุด ๆ ก็หมดเกลี้ยง จนทำให้ค่ายใหญ่อย่าง HyperX ร้อน ๆ หนาว ๆ ออก Headphone Gaming อย่าง HyperX Cloud Earbuds เป็นของตัวเองบ้างซึ่งทำออกมาได้ดีตอบโจทย์เหล่าเกมเมอร์อย่างตรงจุด จนล่าสุดเมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา Razer ก็ออกตัวใหม่ อย่าง Razer Hammerhead Duo มาให้เราได้ยลโฉมกันไป

ซึ่งจากการใช้งานจริงของทั้ง 2 รุ่นนี้สำหรับผู้เขียนเองพบว่าทั้ง 2 รุ่นนี้ค่อนข้างมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในแต่ละแง่มุมการใช้งานอย่างมีนัยยะสำคัญ ขออธิบายเพิ่มเรื่องของการใช้งานหน่อยว่า สำหรับผู้เขียนเองโดยส่วนใหญ่จะใช้งานประเภทเล่นเกมบนเครื่อง PC เป็นหลัก เพราะเป็นคนที่ไม่ชอบใส่ Headset และมีการใช้งานกับการฟังเพลงจากมือถือบ้าง

หัวข้อในที่จะเอามาเปรียบเทียบ

1.เสียงการเล่นเกมบนเครื่อง PC ทั้งแบบผ่าน Sound Card และ ไม่ผ่าน Sound Card

2.เสียงจากการใช้งานบนมือถือ

3.วัสดุ

ก่อนเข้าหัวข้อที่ 1 ขออธิบายคาแล็คเตอร์ของหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้ก่อนว่าพื้นฐานความแตกต่างคืออะไร คือ HyperX Cloud Earbuds จะเป็นหูเสียบแบบ Earbuds หากสงสัยลองไปดูที่รูปภาพ Earbuds จะเป็นหูเสียบแบบธรรมดาทั่วไป ข้อดีคือใส่สบาย และไม่รู้สึกหนักหูมากนัก ข้อเสียเก็บเสียงรบกวนรอบข้างได้ไม่ค่อยดี และจะไม่ค่อยได้ยินย่านเสียงที่เบาและต่ำมาก ๆ

ส่วน Razer Hammerhead Duo จะเป็นหูฟังแบบ In Ear คือจะเป็นจุกสวมเข้าไปในหูเล็กน้อย รุ่น Pro และ Pro.v2 ตัวเก่าค่อนข้างมีปัญหาพอสมควร หากใครที่เคยใช้งานจะรู้ดีว่าพอใส่นาน ๆ แล้วรู้สึกเก็บหู เนื่องจากรุ่นเก่าตัว In Ear เป็นแบบตัวแอลตรงเลย ไม่ได้โค้งรับสรีระของหูเหมือนรุ่นใหม่ ซึ่งส่วนตัวรู้สึกชอบ In Ear รุ่นใหม่มากเพราะใส่สบาย ตอนที่ซื้อมาครั้งแรกรู้สึกกังวลพอสมคสรว่าจะเจ็บเหมือนรุ่นเก่าหรือไม่ แต่บอกเลยรุ่นใหม่ใส่สบายมาก แต่อาจไม่เท่าตัวที่เป็น Earbuds ข้อดีเสียงชัด ตัดเสียงรอบข้างได้ดีมาก ข้อเสียใส่นานเกิน 3 ชม.เริ่มรู้สึกว่าต้องถอดออกมาพักบ้างหูบ้างเพราะเริ่มรู้สึกระคายเคืองหูเล็กน้อย และเสียงพูดตัวเองจะรู้สึกก้อง ๆ หน่อยหากใครที่ไม่ชิน หรือไม่เคยใช้งานหูฟัง In Ear มาก่อน

1.เสียงการเล่นเกมบนเครื่อง PC ทั้งแบบผ่าน Sound Card และ ไม่ผ่าน Sound Card

หูฟัง HyperX Cloud Earbuds เสียงการเล่นเกมบนเครื่อง PC แบบผ่าน Sound Card – Sound Card ที่ผู้เขียนใช้คู่กันคือ Sound Blaster omni  5.1 ในเรื่องของเสียงพื้นฐานตัว HyperX ถือว่าทำได้อย่างดีเยี่ยมเทียบเป็นคะแนน 8.5/10 และเมื่อนำไปเล่นกับเกมแนว FPS อย่าง CSGO หรือ เกม PUBG HyperXรุ่นนี้มีความโดดเด่นเรื่อง Bass และย่านเสียงกลาง ด้วยความที่เสียง Bass เด่นเสียงเท้าภายในเกมค่อนข้างชัดเจนพอสมควร บ้านต่อบ้านคือได้ยินแน่นอน หรือ กำแพงต่อกำแพง ส่วนตัวจากที่ใช้งานจริงมานานพอสมควรกับการเล่นเกม PUBG พบว่าเสียงศัตรูเหยียบหญ้าจะชัดมากกว่า เสียงเดินบนพื้นธรรมดา หรือการที่ศัตรูวิ่งจากใต้เนินมาถือว่าได้ยินพอสมควร ยิ่งถ้าเสียงในเก็บเงียบ ๆ พวกกับ เสียงแวดล้อมภายนอกเงียบ ๆ ผู้เขียนมักได้ยินเสียงปั้มยาศัตรูในบ้าน ไม่ว่าจะเสียงพันยา หรือ เสียงปักเข็ม ในกรณีบ้านเดียวกันนะ ข้างบ้านนี่เกินจริงไปหน่อย ฮาฮา! แต่ก็ไม่ทุกครั้งไปนะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นที่สัมผัสการรับเสียงของหูเราเอง หรือ เพราะความผิดพลาดของการถอดรหัสเสียงจากหูฟังหรือซาวน์การ์ด ทิศทางของเสียงด้วยความที่ใช้คู่กับ Sound Card ทิศทางของเสียงปืนได้ยินชัดเจนแยกซ้ายขวาได้อย่างไม่มีปัญหา

ย่านเสียงกลางถือว่าดีมากทั้งในเกม และแบบการใช้งานทั่วไป ถ้าเป็นในเกม เสียงปืน,เสียงรถ,เสียงระเบิด,เสียงเพลง เสียงตรงค่อนข้างสมจริงแน่หนักออกไปทาง Bass อีกด้วยซ้ำ เรื่องของการฟังเพลง Joox,Youtube หรือดู Netfix ส่วนตัวถือว่ามาตรฐานกว่าหูฟังธรรมดาทั่วไปอย่างชัดเจนเสียงเต็มเสียงแน่นได้อารมณ์ แต่ติดนิดนึงตรงที่ว่าเวลาฟังเพลงที่มีเครื่องดนตรีเยอะ ๆ รายละเอียดเสียงกลอง หรือ คอรัสจะได้ยินไม่ชัดเจนมากนัก คำว่าไม่ชัดเจนไม่ใช่ไม่ได้ยินนะครับ พอได้ยินแต่ไม่ชัดมากเท่าไหร่

หูฟัง HyperX Cloud Earbuds เสียงการเล่นเกมบนเครื่อง PC แบบไม่ผ่าน Sound Card – เมื่อใช้ร่วมกับเครื่อง PC พบว่าเสียงค่อนข้างเบาแต่คาเร็คเตอร์ของเสียงยังเหมือนเดิม แต่ให้นึกภาพว่าเสียงทุกอย่างเบาลง หากจะนำมาเสียบตรงเพื่อเล่นเกมเลยไม่แนะนำเท่าไหร่ ถ้าเสียบตรงเข้าเมนบอร์ดแนะนำให้เป็น Headset ดีกว่า แต่ไม่ใช่ว่าใช้ไม่ได้แต่อย่างใดบางคนอาจใช้งานได้ดีซึ่งนั้นก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์จากการใช้งาน แต่ผู้เขียนลองใช้ทั้งแบบมี Sound Card และไม่มี Sound Card แล้วว่ามันแตกต่างอย่างสิ้นเชิงเพราะแน่นอนว่า Sound Card มันสามารถถอดรหัสเสียงและขับหูฟังออกมาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอยู่แล้ว

หูฟัง Razer Hammerhead Duo เสียงการเล่นเกมบนเครื่อง PC แบบผ่าน Sound Card – เป็น Sound Card รุ่นเดียวกัน คาเร็คเตอร์ของ Razer Hammerhead Duo จะออกไปทางย่านเสียงแหลมสูงผสมทุ้มเล็กน้อย Bass ไม่ชัดเท่า HyperX Cloud Earbuds ซึ่งพอพูดแบบนี้หลายคนอาจบอกว่างั้นไป HyperX ดีกว่า ไม่อย่างนั้น ๆ สำหรับคนที่ไม่ได้คลั่งไคล้เสียง Bass ขนาดนั้นผู้เขียนมองว่า Razer ค่อนข้างน่าสนใจคุณภาพของเสียงถือว่าเยี่ยมมาก ในกรณีที่ได้ยินเสียงนะครับ แต่ถ้าความเป็นมาตรหรือเสียงตรงเนี่ย Razer รุ่นนี้อย่างที่บอกจะออกแหลม และติดสูงหน่อย

สำหรับการเล่นเกมส่วนตัวเอาจริง ๆ ชอบ Razer มากกว่า HyperX ที่ต้องบอกอย่างนั้นเพราะว่าความคาดหวังในสิ่งที่เราต้องการมันแตกต่างกัน สำหรับผู้เขียนซีเรียสเรื่องเสียงในระยะใกล้ ๆ อย่างเสียงเดิน เสียงเท้า ทิศทางของเสียงปืนต่าง ๆ เพราะเล่นเกม PUBG เป็นหลัก Razer ทำได้ดีในเรื่องนี้มาก คือเสียงเท้าชัดมาก ทิศทางของเสียงปืนค่อนข้างตรงไม่ว่าจะเป็นระยะใกล้ กลาง ไกล รวมไปถึงเสียงรถ เพราะในอีกส่วนหนึ่ง Razer เป็นหูฟังแบบ In Ear เลยทำให้ตัดเสียงรบกวนได้ส่วนหนึ่ง แต่ถ้าพูดถึงเสียงโดยรวม HyperX ให้มวลเสียงที่หนุ่มและดูน่าฟังกว่า

อีกหนึ่งความประทับใจคือความสบายในการใส่ เพราะก่อนหน้านี้รู้สึกเข็ดกับรุ่น Pro และ Pro.v2 อย่างที่รู้กันคือใส่นาน ๆ แล้วรู้สึกเจ็บหูมาก แต่พอมาเป็นรุ่นใหม่นี้เหมือน Razer รู้ข้อพกพร่องของตัวเองจึงออกแบบ รูปทรงให้เข้ากับสรีระหูของผู้ใช้งานได้ดี แต่ก็ยังสู้แบบ Earbuds ไม่ได้แน่นอน หลังจากใช้งานไปประมาณ 3 ชั่วโมงติดต่อกันเริ่มรู้สึกระคายเคืองที่หูพอสมควร แต่ไม่ถึงกับเจ็บหรือทนไม่ได้แต่อย่างใด แต่ในความรู้สึกมันรู้สึกได้ ต่างจาก Earbuds ที่เคยใช้งานติดต่อกัน 7-8 ชั่วโมงยังได้สบาย ๆ และอีกหนึ่งสิ่งที่เป็นปัญหาสำหรับผู้เขียนคือ In Ear เมื่อใส่จะได้ยินเสียงพูดตัวเองให้หูแบบก้อง ๆ ซึ่ง ๆ มันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลนะครับปัญหานี้ เวลาพูดคุยกับเพื่อน ๆ ในโปรแกรมสื่อสารมันรู้สึกแปลก ๆ ไปบ้างแต่พอใช้งานไปสักพักก็เริ่มปรับตัวได้

หูฟัง Razer Hammerhead Duo เสียงการเล่นเกมบนเครื่อง PC แบบไม่ผ่าน Sound Card – เสมือน HyperX อย่างไงอย่างงั้น คาเร็คเตอร์เสียงไม่เปลี่ยน แต่เสียงทุกอย่างเบาลง แต่ ๆ !! ถ้าใช้งานแบบทั่วไปดูหนัง,ฟังเพลง,เล่นเกมบ้างนิดหน่อย ไม่ค่อยแนะนำเท่าไหร่ เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า HyperX ให้เสียงที่ค่อนข้างนุ่มนวลกว่า และที่สำคัญคือมันใส่สบาย

2.เสียงจากการใช้งานบนมือถือ

การใช้งานบนมือถือผู้เขียนใช้ฟังเพลงกับดูยูทูปเป็นหลัก เล่นเกมบ้างเล็กน้อย ข้อมูลต่อไปนี้อาจเน้นไปทางเรื่องเสียงที่เกี่ยวกับเพลงมากกว่าเกมนะครับ

HyperX Cloud Earbuds

ด้วยความที่มีคาเร็คเตอร์เสียง Bass ที่หนักมวลเสียงโดยรวมค่อนข้างเพราะ การฟังเพลงผ่าน Joox ผ่าน Youtube หูฟังรุ่นนี้ถ้าให้เป็นคะแนน 8.5/10 ในเรทราคาที่พอกัน คือถ้าต้องการฟังเพลงอารมณ์แบบฟังเพลินฟังสนุก ผู้เขียนขอแนะนำ แต่สิ่งที่ดูจะเป็นปัญหาเวลานั่งรถไฟฟ้า,นั่งวินมอเตอร์ไซต์,หรือสถานที่ที่มีเสียงดัง หูฟังรุ่นนี้เริ่มมีข้อสังเกตเช่นเดียวกันหลายครั้งยืนรอรถอยู่ข้างทางก็ไม่ได้ยินเสียงเพลงไปเลยก็มี ครั้นจะให้เพิ่มเสียงก็ใช่เรื่องเพราะเสียงมันดังอยู่แล้ว ไปเพิ่มเสียงอีกเดี๋ยวจะอันตรายกับสุขภาพจนเกินไป

Razer Hammerhead Duo

พอเป็นรูปแบบฟังเพลงบนมือถือในภาพรวม Razer ทำได้ไม่ดีเท่าไหร่นักขยายความคำว่า “ทำได้ไม่ดี” ใน ณ ที่นี้หมายถึงมวลเสียงโดยรวมคือถ้าไม่ไปเปรียบเทียบกับใคร Razer ทำออกมาได้ดีสมราคาแน่นอน แต่ต้องยอมรับว่า HyperX มวลเสียงโดยรวมทำได้ดีกว่าจริง ๆ ย่านเสียงกลางที่ชัดเจน ไม่เอนเอียงไปทางใดทางหนึ่งพร้อม Bass ที่มาแบบแน่น ๆ แต่จุดเด่นของ Razer อยู่ตรงที่เป็น In Ear คือการเก็บเสียงรบกวนในสภาพแลดล้อมที่เสียงดังได้ดี เหมาะกับใครที่มีโลกส่วนตัวค่อนข้างสูงยืนฟังเพลงบน BTS ชิล ๆ ไม่ได้ยินเสียงใครมาทำให้รำคาญใจ

3.วัสดุ

HyperX Cloud Earbuds มองภาพรวมวัสดุถือว่าทำออกมาได้สมราคาลักษณะของสายและการห่อหุ้ม HyperX จะเป็นแบบสายแบนห่อหุ้มด้วยพลาสติกโดยให้ความเป็นซิลิโคนพอสมควร จึงทำให้ไม่พันกันง่ายและไม่ผิดรูป ไม่ขดไม่งอ แต่ก็ไม่ได้แข็งแรงแบบประเภทสปอร์ตอะไรขนาดนั้น ที่สำคัญ HyperX ให้กระเป๋าใส่หูฟังมาด้วย ของ Razer ไม่มี

Razer Hammerhead Duo ลักษณะสายเป็นสายถักขนาดเล็กดูไม่ยุ่งเหยิงจนเกินไป ไม่เหมือนกับตัว HyperX ที่สายมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่ส่วนตัวไม่ค่อยชอบสายถักของ Razer เพราะมันพันกันง่ายมากและผิดรูปสายจะขดกันเป็น ฟิวส์การใส่ของ Earbuds ให้ความสบายมากกว่า In Ear แน่นอน แต่อย่างที่บอก Razer ดีไซน์ออกมาให้ In Ear รุ่นนี้ใส่สบายกว่ารุ่นก่อนเยอะมาก น้ำหนักค่อนข้างเบาทั้งคู่ไม่ได้ให้ความรู้สึกหนักในการใส่

แต่ Razer จะมีความพิเศษกว่าตรงที่มีไมค์ไลน์อินในตัวพร้อมปุ่มกดเพิ่มเสียงลดเสียง โดยที่ HyperX ไม่มี คุณภาพเสียงไมค์แค่พอสื่อสารได้ยินชัดเจน โทนเสียงไม่มีความพิเศษอะไร ในส่วนของราคามีระยะห่างให้คิดมากเลยทีเดียว HyperX Cloud Earbuds ราคาปัจจุบันอยู่ที่ 1,490 ส่วน Razer Hammerhead Duo ราคาเต็ม 1,990 แต่ตอนนี้เห็นว่ากำลังลดราคาเหลือ 1,590 ถ้าราคาเต็มต่างกันถึง 500 บาท แต่ตอนนี้ราคาต่างกันเพียง 100 เท่านั้น

สรุป

คงต้องดูกันเป็นเรื่อง ๆ ไปสำหรับหูฟังทั้ง 2 รุ่นนี้เพราะทั้งคู่มีข้อดีข้อเสียข้อจำกัดที่แตกต่างกัน ผมขอสรุปให้แบบนี้หากต้องการใช้งานกับ PC ซีเรียสกับเสียงในการเล่นเกมแนะนำให้มี Sound Card ช่วยขับเสียงให้ชัดมากขึ้น หากไม่มี Sound Card ไม่แนะนำเท่าไหร่นักจากประสบการณ์ใช้งานจริง ทั้ง 2 รุ่นเลยนะครับ

หากต้องการใช้งานแบบอเนกประสงค์ทั่วไปสามารถเลือกใช้ได้เลยทั้ง 2 รุ่น อันนี้ขึ้นอยู่กับความชอบในดีไซน์หรือแบนด์หรือราคาที่รับได้ เพราะเอาเข้าจริง ๆ มันก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนบุคคลในคาเร็คเตอร์ของเสียง ส่วนตัวการใช้งานของผมแบ่งออกเป็น 2 แบบ ถ้าอยู่บ้านดูหนังฟังเพลงดูซีรี่ย์ผมจะใช้ HyperX เพราะใส่สบาย ย้ำอีกครั้ง Razer In Ear รุ่นนี้ใส่สบายเช่นเดียวกันแต่ถ้าเปรียบเทียบกันชอบความใส่สบายของ Earbuds มากกว่าเท่านั้นเอง หากออกไปข้างนอกเช่นต้องนั่งรถ นั่งเรือ จะหยิบ Razer ไปใช้เพราะเก็บเสียงรบกวนแวดล้อมได้ดี

สุดท้ายนี้ข้อมูลทั้งหมดนี้เป็นข้อมูลที่ผู้เขียนได้ใช้งานจริง หากข้อมูลส่วนไหนดูเหมือนเป็นการชี้นำจนมากเกินไปต้องขออภัยไว้ด้วย ทางเราไม่ได้มีเจตนาที่จะชี้นำแต่อย่างใดเพียงเปรียบเทียบหูฟังทั้ง 2 รุ่นที่มีความแตกต่างกันของพื้นฐานแต่นำมาใช้ในเรื่องเดียวกันแล้วนำเสนอผลลัพธ์ที่ได้สัมผัสมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน ขอบคุณครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง

รีวิวหูฟัง HyperX Cloud II

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here